วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556

แกงเห็ดแคลง

พอถึงหน้าฝนก็มีเห็ดออกมาให้เลือกไม่น้อยเลย แต่ก่อนก็ไม่เคยเก็บเห็ด พอมาอยู่ที่สตูล มีโอกาสได้ไปเก็บเห็ดกับเค้าบ้างสนุกดีเหมือนกัน วันนี้ไปเก็บเห็ดแคลงมาก็เลยนำเมณูแกงเห็ดแคลงมาฝาก

ส่วนประกอบของเครื่องแกง มีดังนี้
ใช้ความรู้สึกกะเอาค่ะ ตำเหมือนกับตำเครื่องแกงกะทิ
พริกไทย
ตะไคร์หั่นฝอย
กระเทียม
ขมิ้น
หอมแดง
พริกขี้หนูแห้ง

ส่วนประกอบของแกง
เห็ดแคลง
มะพร้าวขูด

วิธีทำ
นำเครื่องแกงกะทิกับเห็ดแคลงมาผสมกันและโขลกให้เข้ากัน พอช้ำๆ ไม่ต้องละเอียด
คั้นกะทิแยกหัวกะทิกับหางกะทิ
นำหางกะิทิมาตั้งไฟปานกลาง พอเดือนก็ใส่เห็ดแคลงที่คลุกกับเครื่องแกงเรียบร้อยแล้ว ลงไปผัดจนเห็ดสุก จากนั้นก็ใส่หัวกะทิเคีีี่ยวต่อสักพักก็ยกลงได้พร้อมเสริฟ




วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ไข่เจียวหอมแดง

วันนี้ขอนำเสนอเมณูง่ายแสนง่าย พอนึกไม่ออกบอกไม่ถูกว่าจะทำอะไรกินดี อันนั้นก็ไม่อยากอันนี้ก็ไม่อยาก ไข่เจียวนี่แหละทานได้ทุกฤดูกาล

ส่วนประกอบ ได้แก่
ไข่ไก่สด 2 ฟอง
หอมแดง 2 หัว หั่นเป็นแว่น
น้ำปลา 3 ข้อนกาแฟ

วิธีทำ
ตอกไข่ไก่ ตีให้เข้ากัน จากนั้นก็ใส่หอมแดงและน้ำปลาลงไปตีให้ฟู
ใสน้ำมันในกระทะพอน้ำมันร้อนก็ นำไข่ไปเจียวได้เลย
วิธีการเจียวของพี่ ใ่ส่ไข่ทีละน้อยแล้วใช้ช้อนคนเป็นฝอย ค่อยใส่จนหมด ก็ทอดจนเหลืองกรอบกินกับข้าวสวย

วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556

แกงกะทิหน่อไม้กุ้งสด

วันนี้ไม่รู้จะทำอะไรกินดี พอดีเหลือบไปเห็นหน่อไม้ที่กอไผ่ข้างบ้าน ชะอมก็มี ถั่วฝักยาวก็กำลังดี สะตอก็พร้อม งั้นเรามาลงมือทำกันดีกว่า

ส่วนประกอบที่สำคัญ ได้แก่
กุ้งสด แกะเปลือกและผ่าหลัง กะตามชอบ
หน่อไม้สด ต้มจนหายขม 1 ถ้วย
สะตอ 1 ฝัก เเกะเอาแต่เมล็ด
ชะอม ประมาณ 1 กำมือ
ถั่วฝักยาว 1-3 ฝัก
หอมแดงทุบ 2 หัว
กระเทียมทุบ 3 กลีบ
กะปิ นิดหน่อย
เกลือ
กะทิ 3 ถ้วย

วิธีทำ
นำกะทิตั้งไฟ ใส่หอมแดง กระเทียม กะปิ และเกลือ ต้มจนเดือด
ใส่กุ้ง พอกุ้งเริ่มสุกก็เติมผัก ลงไปเลย จากนั้นปรุงรส แล้วก็ยกลงได้เลย รสชาติ กล่มกล่อม มีกลิ่นกะปิ กลิ่น สะตอ ชะอม คือผักแต่ละตัวจะส่งกลิ่นออกมา ปรุ่งรสให้ ออกเค็มนิด พร้อมเสริฟค่ะ



วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2556

แกงไตปลา

ส่วนประกอบในการทำแกงไตปลา ได้แก่
1.ไตปลา ประมาณ 1 ถ้วย
2.ปลาย่าง
3.ผักต่างๆ เช่น มะเขือเปาะ หน่อไม้ มัน ถั่วพรู ฟักทอง ใส่ได้ตามชอบ
4.เครื่องแกง
5.ใบมะกรูด

ส่วนประกอบในการตำเครื่องเเกง
1.ขมื้น
2.ตะใคร้
3.พริกไทยดำ
4.พริกขี้หนูสด
5.หอมแดง
6.กระเทียม
7.กะปินิดหน่อย

นำส่วนประกอบในการตำเครื่องแกงทั้งหมดโขลกให้ละเอียดก็จะไ้ด้เครื่องแกงไตปลา ซึ่งส่วนประกอบก็เหมือนเครื่องแกงกะทิทั่วไป แต่แกงไตปลาเราใช้พริกขี้หนูสด บางคนเค้าจะใช้พริกขี้นก หรือภาษาใต้เรียกว่าดีปลีขี้นก

วิธีการทำ
1.นำไตปลาไปต้มกับน้ำเปล่าจนเดือด ใช้น้ำเปล่าประมาณ 5 ถ้วยตวง แล้วกรองเอาแต่น้ำใส่หม้อตั้งไฟรอให้เดือดอีกครั้ง
2.ใสเครื่องเเกง ลงไปต้มให้เครื่องแกงละลาย เติมปลาย่าง แล้วก็ตามด้วยผักพอผักสุกชิมรสโรยใบมะกรูด แล้วก็ยกลงได้เลย ส่วนมากแล้วถ้าเรามีไตปลาดี กะปิดี แทบไม่ต้องปรุงเพิ่มก็อร่อยแล้ว

ข้อควรระวังในการแกง มีอยู่ว่า ไตปลาจะมีรสเค็มอยู่แล้วระวังในการเติมเกลือด้วยนะ บางคนชอบใส่เกลือในเครื่องเเกงก็ขอให้เบามือหน่อยก็ดีนะคะ

วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2556

แกงคั่วปลากระเบนกับใบชะพลู

เตรียมตัวก่อนทำ
เริ่มแรกตำเครื่องแกงเตรียมไว้ก่อนดีกว่า

ส่วนผสมในการตำเครื่องแกง มีดังนี้จ้าา
- พริกไทยดำ 1 ช้อนชา
- ขมิ้น 1 ท่่อน
- กระเทียม 5 กลีบ
- หอมแดง 2 หัว
- ตะใคร้ หั่นฝอยเอาเฉพาะโคนที่มีสีขาว 2 ต้น
- พริกขี้หนูแห้ง ประมาณ 30 เม็ด
- เกลือ เล็กน้อย
- กะปิอย่างดี 1 ช้อนกินข้าว

วิธีตำเครื่องแกง โขลกทุกอย่างเข้าด้วยกันยกเว้นหอมกับกะปิไว้ใส่ทีหลัง โขลกใ้ห้ละเิอียด จากนั้นก็ใส่หอมแดง โขลกให้ละเิอียดเข้ากันดี แล้วใ่ส่กะปิอย่างดีโขลกให้เข้ากัน พักไว้ก่อน

ส่วนประกอบของแกง
- เครื่องแกงที่ตำเสร็จแล้ว
- เนื้อปลากระเบนหั่นชิ้นพอคำ
- ใบชะพลู 2 กำ
- พริกไทยอ่อน 3 ช่อ
- มะพร้าวขูด 1 ลูก คั้นแยกหัวกับหางกะทิเตรียมไว้

ขั้นตอนการแกง
- ใ่่ส่หัวกะทิลงในหม้อ พอเดือนนำเครื่องแกงไปผัดจนแตกมัน
- จากนั้นใส่เนื้อปลากระเบนลงไปเติมหางกะทิเล็กน้อยพอขลุกขลิก เคี่ยวไปเรื่อยๆ แล้วค่อยๆเติมหางกะทิถ้าน้ำแห้ง เพราะต้องเคี่ยวนานหน่อยไม่งั้นจะมีกลิ่นคาวปลา
- เมื่อเคี่ยวจนได้ที่แล้วก็ใส่ใชชะพลูกับพริกไทยอ่อนลงไปเติมหางกะทิพอขลุกขลิก พอเืดือดก็ยกลงได้

เสร็จแล้วคร้าา


 
   

วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เนื้อชะมวง

นับว่าเป็นอาหารจานเด็ดที่ได้รับความนิยมมานานทำกินง่ายอร่อย วิธีทำก็ง่ายนิดเดียว

วัสถุดิบ
- ซี่โครง หรือกระดูกวัว ประมาณ หนึ่งกิโลกรัม ก็ได้ค่ะเลือกที่มีเนื้อเยอะหน่อยนะคะ
- ใบชะมวงฉีกเอาก้านออก
- ตะใคร้
- หัวหอมทุบ 2 -3 หัว
- กระเทียมทุบ หนึ่งหัว
- ข่า ประมาณ หนึ่งแง่ใหญ่หน่อยก็ดีคะ
- เครื่องปรุงรส ได้แก่ เกลือ ใครชอบรสหวานก็เติมน้ำตาลได้ไม่ว่ากัน

วิธีทำนะคะ
- นำเนื้อมาล้างให้สะอาด จากนั้นก็เอาลงหม้อใส่ ตะใคร้ หอมแดง กระเทียม ข่า ใส่น้ำเปล่าตอนแรกไม่ต้องเยอะนะเดี๋ยวเราค่อยเติมทีหลัง เติมเกลือด้วยคะ ต้มไฟปานกลางจนน้ำเริ่มแห้ง
- พอน้ำเริ่มแห้งก็ใส่น้ำเพิ่มจนเกือบเต็มหม้อต้มจนเนื้อเปื่อยยุ่ย จากนั้นก็ใส่ใบชะมวงเพื่อเพิ่มรสเปรี้ยวชิม ปรุงรสตามชอบก็ยกลงกินร้อนๆ

วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ข้าวยำน้ำเคย

อาหารยอดนิยมช่วงถือศีลอดของคนมุสลิม อาหารจานสมุนไพร มาลงมือทำกับเลยดีกว่า

ส่วนประกอบที่สำคัญ
- ข้าวสวย สองทัพพี
- ผักสมุนไพรซอยตามชอบ เช่น ใบขมิ้น ตะใคร้ กะหล่ำปลี ใบผโหม ใบมะกลูดนิดหน่อย ดอกดาหลา(ไม่ต้องเยอะนะกลิ่นค่อนข้างแรง) ใบชะพลู
- พริกไทยคั่วตำละเอียด
- มะพร้าวคั่ว
- กุ้งแห้งป่น
- พริกขี้หนูป่น
- มะนาวสด
- หอมแดงซอย
- น้ำเคยข้าวยำ

วิธีทำ อยากบอกว่าถ้าเตรียมเครื่องทุกอย่างครบแล้วขั้นตอนการทำก็ง่ายมากๆ  นำข้าวสวยมาใส่ภาชนะ เราไม่ใช้ข้าวร้อนนะคะ เพราะจะทำให้ผักเหี่ยวจ้า
- นำข้าวสวยมาคลุกด้วยผักหั่นฝอย จากนั้นก็เติม พริกไทย มะพร้าวคั่ว กุ้งแห้งป่น หอมแดงซอย คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วตามด้วยน้ำเคยคลุกให้เข้ากันอีกครั้ง เสร็จแล้วก็ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว และพริกขี้หนูตามชอบเลย

วิธีทำน้ำเคยข้าวยำ
มีวัสถุดิบดังนี้จ้า
- น้ำตาลแว่นครึ่งกิโลกรัม
- น้ำตาลแดงสองช้อนโต๊ะก็พอ เอาสี
- น้ำตาลทรายแดงครึ่งกิโลกรัม
- กะปิอย่างดี 50 กรัม
- เกลือ หนึ่งช้อนกินข้าวแบบพูนๆ
- น้ำเปล่าประมาณ 1.5 ลิตร

สูตรนี้ไม่ใส่บูดูนะคะ เพราะี่พี่ศรีำไม่ค่อยชอบกินบูดู ถ้าใครชอบก็ใส่ได้นะ บางตนเค้าก็เพิ่มปลาเค็มไปด้วยแล้วแต่ชอบนะไม่ว่ากัน

วิธีการทำ
     นำน้ำเปล่ามาตั้งไฟให้เดือดแล้วใส่วัสถุดิบทั้งหมดลงไป ค่อยเคี่ยวจนข้นพอที่จะเกาะเม็ดข้าวเวลายำก็เป็นอันเสร็จ  รสชาติออกเค็มหวามและหอมกะปิ ระวังอย่าให้เดือดจนล้นหม้อนะที่บ้านเค้าเรียกว่าโพ้ว
ตัวน้ำเคยเคีียวเก็บไว้ได้ทีละมากๆ เพราะเวลาให้ซาวข้าวยำเค้าใช้แค่นิดหน่อยเองค่ะ